Scene4-International Magazine of Arts and Culture www.scene4.com
Kamol Tassananchalee | Janine Yasovant | Scene4 Magazine - February 2019  www.scene4.com

กมล ทัศนาญชลี
ศิลปินแห่งชาติ

ตะวันออกและตะวันตก ศิลปินสองซีกโลก

จานีน ยโสวันต์

    “ข้าพเจ้าเดินอยู่บนเส้นทางนี้มายาวนาน ชีวิตและวันเวลาที่ผ่านไป พบว่าการ
    ทำงานศิลปะให้ได้ผลดีนั้น ต้องมีพื้นฐานจากความจริงใจบริสุทธิ์ใจเป็นที่ตั้ง และ
    ค่าของคนคือผลของงาน และมีคุณค่ามหาศาลตลอดไป”
    กมล ทัศนาญชลี

มื่อไม่นานมานี้ดิฉันมีนัดหมายสัมภาษณ์อาจารย์กมล ทัศนาญชลี ตอนที่พบกัน
ท่านบอกกับดิฉันว่าท่านได้เดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกาหลายครั้งกับ
ครอบครัวเพื่อมาเข้าร่วมงานนิทรรศการศิลปะ เวิร์คช็อป และในโอกาสพิเศษที่
มหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทย เป็นเวลามากกว่า 8 ปีแล้วที่ดิฉันได้
ติดตามงานนิทรรศการของท่านในประเทศไทย และความปรารถนาของดิฉันก็คือ
ได้สัมภาษณ์ท่านอาจารย์กมลสักครั้งหนึ่ง

อาจารย์กมล ทัศนาญชลีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ใน
ปีพ.ศ. 2540 ท่านได้รับปริญญาดุษฎีบัญฑิตกิติมศักดิ์ 14 ใบจากมหาวิทยาลัย
หลายแห่งในประเทศไทย

จากการศึกษาค้นคว้ามาทั้งหมด ดิฉันจึงได้ข้อสรุปว่าอาจารย์กมลเป็นหนึ่งใน
ศิลปินที่เป็นที่เคารพนับถือและมีวิสัยทัศน์ในประเทศไทย ท่านให้การต้อนรับและ
ดูแลครูศิลปะและศิลปินรุ่นใหม่ที่ได้รับเลือกให้ไปทัศนศึกษาดูงานที่สหรัฐอเมริกา
กลุ่มศิลปินที่ได้พบกับท่านต่างประทับใจในความเป็นกันเองของท่าน ในปีพ.ศ.
2561 อาจารย์กมลกลับมาพร้อมกับผลงานที่มีชื่อว่า “Two visions of the
wonderland” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของงานThailand Biennale Krabi 2018

“ข้าพเจ้ายังคงซื่อตรงต่อรากเหง้าความเป็นไทย
ต่อสู้ดิ้นรนอยู่บนเส้นทางสายเดิม พอใจในชีวิตที่เป็นศิลปินอิสระ”

อาจารย์กมล ทัศนาญชลีมีผลงานที่โดดเด่นในสหรัฐอเมริกาเช่นการสาดสีที่
ทะเลทรายโมฮาเว่ ท่านยังสนับสนุนครูศิลปะและศิลปินรุ่นเยาว์ให้ทำงานเวิร์คช็อป
ในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

IMG02-cr

อาจารย์กมลใช้เวลามากกว่า 16 ปีกับโครงการพัฒนาและถ่ายทอดความรู้ด้าน
ศิลปะให้กับศิลปินรุ่นเยาว์ทั่วประเทศไทย เริ่มด้วยการร่วมมือกับรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงวัฒนธรรมคนแรกมาจนถึงคนปัจจุบัน สำนักงานศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัย
และสภาศิลปะไทยสหรัฐอเมริกา

อาจารย์กมลพาศิลปินไปยังแกรนด์ แคนยอนหลายร้อยครั้งและสร้างความ
ประหลาดใจให้กับศิลปินที่ไปพบท่านในสหรัฐอเมริกา โครงการ Young Artist
Talent ครั้งที่ 9 ประจำปีพ.ศ. 2561 เป็นการทัศนศึกษาดูงานเยี่ยมชมMuseum
of Contemporary Native Arts และ Canyon Road Contemporary Art ที่ตั้งอยู่
บนถนนที่มีห้องแสดงงานศิลปะเกือบถึง 200 แห่ง และยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อป และ
การฟังบรรยายเกี่ยวกับศิลปะ

จากนี้ไปเป็นบทสัมภาษณ์

จานีน: อยากให้อาจารย์เล่าเรื่องเกี่ยวกับผลงานประติมากรรมที่มีชื่อว่า“Two
visions of the wonderland” ดิฉันพบว่าผลงานชิ้นนี้น่าจะเป็นสัญลักษณ์ที่
เหมาะสมสำหรับงาน Thailand Biennale Krabi 2018

IMG09-cr

กมล: งานประติมากรรมชิ้นนี้ผมสร้างขึ้นที่เขาขนาบน้ำ จังหวัดกระบี่ เป็นงานที่ได้
ตำแหน่งที่ดีมากกว่าไปอยู่ในที่อุทยานหรือตามชายหาดที่จะเป็นงานชั่วคราว 4
เดือน ผมจึงใช้วัสดุที่คงทนถาวร สแตนเลสไร้สนิมที่จะอยู่คู่กับกระบี่ตลอดไปปาก
แม่น้ำกระบี่มีน้ำไฟฟ้าพร้อม จึงได้ออกแบบงานประติมากรรมที่ดูได้ทั้งกลางวันและ
กลางคืน มาเป็นแนวความคิดสร้างสรรค์ที่ต่างกับอยู่อุทยานหรือสถานที่ๆ ไม่
คล่องต้วในการทำงาน ต้องขอบคุณท่านนายกเทศมนตรีกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วนที่หา
พื้นที่ได้งดงามมาก

แนวคิดคือการมองกระบี่ที่เป็นธรรมชาติสวยงามด้วยตาเปล่าอันเป็นโจทย์ที่สำคัญ
จึงใช้“แว่นขยาย”เป็นสัญลักษณ์มองในแง่มุมมองของจริงและจินตนาการ แอบ
แฝงไปด้วยจินตนาการเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถมองเห็นใต้น้ำ ใช้จอ LED ฉายรูปฝูง
ปลาและสถานที่สำคัญของกระบี่ตามเกาะต่างๆ การมองเห็นอีกอย่างหนึ่งคือการ
ใช้กล้องส่องทางไกลขนาดเกือบสามเมตรมองภาพเขาขนาบน้ำที่เป็นถิ่นอาศัย
ตามธรรมชาติของนกอินทรีหัวขาวที่ยังคงดำรงชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ ยังมีอีกหลาย
แง่มุมมองจินตนาการที่สะท้อนธรรมชาติรอบด้านทุกแง่มุมและสะท้อนตัวเองด้วย
เราจะเห็นเงาสะท้อนของตนเองตามที่ติดกระจกโค้งตามจุดต่างๆ และนี่คือ
จินตนาการในอีกมุมมองหนึ่ง

IMG08-cr

งานชิ้นนี้มีครบทั้งรูปแสงสีเสียงจากจอLED วิดีโอคลิบที่ฝังอยู่ในฐานงาน
ประติมากรรมจึงเป็นมุมมองจริงเหนือจริงจากการมองกระบี่สุดขอบฟ้า ตามหัวข้อที่
ได้ตั้งไว้ ที่สำคัญเสร็จเป็นชิ้นแรกในโครงการและอยู่ถาวรคู่กระบี่ตลอดไป ผมได้
คำนึงถึงคำว่าฝนแปดแดดสี่ ตระหนักดีว่ากระบี่มีฝนอยู่แปดเดือนมีลมพายุ จึง
เลือกใช้วัสดุที่คงทนโดยไม่ต้องมาซ่อมในภายหลัง

จานีน: อยากทราบเรื่องของการศึกษาของอาจารย์ในไทยและต่างประเทศ

กมล: ผมจบจากโรงเรียนเพาะช่างในปีพ.ศ. 2507 หลังจากนั้นผมไปศึกษาต่อที่
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ในปีพ.ศ. 2512 ผมย้ายจาก
มหาวิทยาลัยในประเทศไทยและได้รับทุนการศึกษาจากOtis Art Institute of
Los Angeles รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญา
โทในปีพ.ศ. 2520 ในสหรัฐอเมริกาหลังจากนั้นผมไปเป็นอาจารย์สอนศิลปะที่
LamarUniversityเมืองโบมองต์ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกาในปี 2520 และที่
University of Californiaเมืองเบิร์กเลย์รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริการะหว่างปี
พ.ศ. 2522 -2524

จานีน: อาจารย์ใช้เวลาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ เป็นไปได้หรือไม่ที่สไตล์
งานศิลปะแบบตะวันตกจะมีอิทธิพลอย่างสิ้นเชิงต่อวิธีการทำงานศิลปะของอาจารย์

IMG04-cr

กมล: ผมคิดว่าสิ่งนั้นไม่น่าจะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าผมจะใช้เวลาของชีวิตมากกว่า 45 ปี
อาศัยอยู่ต่างประเทศ งานของผมส่วนใหญ่มีแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมไทย
และศาสนาพุทธเช่นหนังตะลุงซึ่งเป็นความบันเทิงทางวัฒนธรรม ธาตุทั้งสี่ดิน ลม
น้ำ ไฟเป็นเรื่องราวของว่าวไทยหลายชนิดที่ใช้ในการแข่งขัน

IMG05-cr

จานีน: อาจารย์อยากเล่าเรื่องอะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตของอาจารย์อีกบ้างคะ

กมล: ตอนที่ผมมีอายุประมาณ 27 -28 ปีสำนักข่าว USIA มาหาผมเพื่อขอถ่ายทำ
การสัมภาษณ์เป็นวิดีโอและนิตยสาร Freedom Magazine ติดต่อผมเพื่อตีพิมพ์บท
สัมภาษณ์เกี่ยวกับชีวิตของผม

46 ปีที่แล้วผมอัญเชิญธงชาติไทยไปยังสหรัฐอเมริกาเนื่องมาจากความสำเร็จของ
ผมในฐานะที่เป็นศิลปิน นั่นเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผมDe Young
MuseumและPalace of Legion เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียซื้อผลงาน
ศิลปะร่วมสมัยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ตอนนั้นผมเป็นอาจารย์อยู่ที่เบิร์กเลย์

IMG06-cr

จานีน: อยากให้อาจารย์พูดถึงที่มาโครงการสนับสนุนครูศิลปะและศิลปินรุ่นเยาว์ที่
อาจารย์ดูแลอยู่

กมล: ต้นไม้ร้อยอ้อมเป็นโครงการสำคัญที่เราต้องเพาะเมล็ดพันธุ์ศิลป์ของประเทศ
ให้งอกงามต่อไปจึงเป็นที่มาของโครงการนี้ เราเริ่มจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
สำนักงานศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัยที่มีศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์เป็นหัวหอก
ตั้งแต่ครั้งแรกเช่น อ.ถวัลย์ ดัชนี อ.ประหยัด พงษ์ดำ ครั้งแรกจัดขึ้นที่
มหาวิทยาลัยราชภัฎ จังหวัดเชียงราย ได้รับความสนใจจากครู อาจารย์ นักเรียนชั้น
ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษามาจากจังหวัดใกล้เคียงและทั่วประเทศ
โครงการทั้งหมดใช้เวลาสองวัน จำนวนของผู้เข้าร่วมมากกว่า 2,000 คนต่อวันจึง
ต้องย้ายจากเต้นท์ขนาดใหญ่ 4 เต้นท์มาเป็นหอประชุมใหญ่ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ
อุปกรณ์ไม่เพียงพอแต่นักเรียนส่วนใหญ่ก็เตรียมอุปกรณ์มาเองด้วยกิจกรรมจึง
ดำเนินไปอย่างเรียบร้อย เนื่องมาจากความนิยมจึงทำให้มีการจัดโครงการ 4 ครั้ง
ในแต่ละปี สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปยังภาคเหนือ ใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ
ตะวันออก และภาคกลาง

IMG10-cr

จากทัศนศิลป์ก็จะมีวรรณศิลป์เพิ่มขึ้นและในที่สุดก็มีศิลปะการแสดงครบทั้ง 3
สาขาหลัก เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ ประสบการณ์ ปรัชญา ความคิดโดยตรง
ของศิลปินแห่งชาติทั้ง 3 สาขาไปยังศิลปินรุ่นใหม่ และแบ่งเป็นฐานความรู้ได้ 10
ถึง 11 ฐานให้นักเรียนเข้าร่วม ศิลปินแห่งชาติจากภาคกลางมาเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด
บางครั้งก็มีศิลปินแห่งชาติ 15 – 22 ท่านจากสาขาต่างๆ เช่นจิตรกรรม ภาพพิมพ์
สื่อผสม การถ่ายภาพ สถาปัตยกรรม ประติมากรรม บทกวี และเรื่องสั้น
ศิลปะการแสดงก็แล้วแต่ภูมิภาค ศิลปะพื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้านเช่นกลองสะบัดชัย
การเป่าขลุ่ยไทย การร้องเพลงพื้นบ้านและร้องเพลงลูกทุ่ง

หลังจากที่เราจัดการเรื่องการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ศิลปินใหม่แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะ
หาเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนที่ยังอยู่ในโคลนตม หลังจากที่เราพบเพชรเหล่านี้แล้ว
จึงเจียระไนให้เป็นอัญมณีที่สวยงามต่อไป กล่าวง่ายๆก็คือเราสนับสนุนศิลปินรุ่น
ใหม่ที่มีพรสวรรค์ให้มีความมั่นใจและมีทักษะในทางของตนเอง สำหรับโครงการนี้
นักศึกษามหาวิทยาลัยหลายร้อยคนจากทั่วประเทศสมัครเข้ามาอยู่ในค่ายนี้ ตอน
แรก 70คนจากทั่วภูมิภาคถูกเลือกเข้ามาและต้องทำการผ่านด่านต่างๆ ในท้าย
ที่สุดคัดเหลือนักศึกษาเพียง 10 – 11 คนที่ได้รับเลือกเดินทางไปสหรัฐอเมริกา
เพื่อแสดงผลงาน ไปทัศนศึกษาดูงาน ทำเวิร์คช็อปและพักอยู่กับผมเป็นเวลาสอง
สัปดาห์ ในช่วงเวลานี้ผมจะพาไปชมแกลเลอรี่งานศิลปะที่มีชื่อเสียง ไปพบปะ
พูดคุยกับศิลปินมืออาชีพและเยี่ยมชมคณะศิลปะของมหาวิทยาลัยต่างๆ

IMG03-cr

กรุณาลงความเห็น เกี่ยวกับบทความนี้ี้

Scene4 Magazine: Janine Yasovant

ส่ง
อีเมล์
หน้านี้

จานีน ยโสวันต์ เป็นนักเขียน
เธออาศัยอยู่ในเชียงใหม่ประเทศไทย
สำหรับบทความและบทวิจารณ์อื่นๆ ของ จานีน ยโสวันต์
กรุณาตรวจดู
 แฟ้มเก็บข้อมูล

Click Here for this article in English
©2019 Janine Yasovant
©2019 Publication Scene4 Magazine

 

 

Sc4-solo--logo62h

February 2019

Volume 19 Issue 9

  SECTIONS: Cover | This Issue | inFocus | inView | inSight | Perspectives | Special Issues | Books
  COLUMNS:  Alenier | Bettencourt | Jones | Marcott | Meiselman | Thomas | Walsh 
  INFORMATION: Masthead | Submissions | Recent Issues | Your Support | Links | Archives
  CONNECTIONS: Contact Us | Comments | Subscribe | Advertising | Privacy | Terms | Letters

Search This Issue

|

Search The Archives

|

Share via Email


Scene4 (ISSN 1932-3603), published monthly by Scene4 Magazine–International Magazine of Arts and Culture. Copyright © 2000-2019 Aviar-Dka Ltd – Aviar Media Llc.
 

Scene4 Books at Aviarpress - www.aviarpress.com

Good Reading
Is Currently
On Sale

Scientific American - www.scene4.com
Calibre Ebook Management - www.scene4.com
Thai Airways at Scene4 Magazine
14990330623594616631
Janine-28